บทที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
1. ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์(Computer) หมายถึง อุปกรณ์อิเลคทรอนิกที่ใช้ในการจัดการข้อมูลที่มีหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูล (คำนวณและตรรกะ) แล้วนำข้อมูลไปเก็บไว้ในหน่วยความจำ (Memory Unit) และนำข้อมูลออกมาแสดงผลทางหน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์มีความสามารถในการเก็บข้อมูลไว้ได้เป็นจำนวนมากและสามารถเรียกมาใช้งานได้เมื่อต้องการสามารถนำไปใช้กับงานได้ดังนี้
- งานคำนวณที่สลับซับซ้อนมาก เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์
- งานที่มีปริมาณข้อมูลเป็นจำนวนมาก เช่น การคำนวณภาษีเงินได้
- งานที่ต้องทำเป็นประจำ เช่น การค้นหาประวัติลูกค้า การทำบัญชีรายวัน
- งานที่ต้องการความถูกต้องสูง เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำตามคำสั่งได้อย่างแม่นยำ
2. วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
การแบ่งวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ จะแบ่งออกเป็นยุค ๆ ตามลักษณะโครงสร้างและเทคโนโลยีของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยสามารถแบ่งได้เป็น
2.1 คอมพิวเตอร์ยุคแรก (ค.ศ. 1951-1958)
- เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้กำลังไฟฟ้าสูง เพราะมีขนาดใหญ่ จึงมีปัญหาเรื่องความร้อน และไส้หลอดขาดบ่อย
- ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และหลอดสุญญากาศ
- การทำงานใช้ภาษาเครื่อง (Machine Language)
- คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่ถูกใช้งานในเชิงธุรกิจ คือ UNIVAC
- ตัวอย่างของเครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแรก ได้แก่ มาร์ค วัน (MARK 1), อินีแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)
2.2 คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง (ค.ศ. 1959-1964)
- เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ (transistor) แทนหลอดสุญญากาศ
- มีความเร็วที่สูงกว่า มีความถูกต้องแม่นยำ และประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า
- เครื่องมีขนาดเล็ก ใช้กำลังไฟฟ้าน้อยและราคาถูกลง
- ใช้วงแหวนแม่เหล็กที่ทำขึ้นจากสาร ferromagnetic เป็นหน่วยเก็บความจำ
- ในช่วงต้น ค.ศ.1960 ได้เริ่มมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก และดิสก์ มาใช้ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรง
- ภาษาที่ใช้เป็นภาษาระดับสูง ซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล
2.3 คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม (ค.ศ. 1965-1971)
- เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับคอมพิวเตอร์ เพราะมีการคิดค้น
วงจรรวม (Integrated Circuit) หรือ IC ซึ่งสามารถทำงานได้เท่ากับทรานซิสเตอร์หลายร้อยตัว
วงจรรวม (Integrated Circuit) หรือ IC ซึ่งสามารถทำงานได้เท่ากับทรานซิสเตอร์หลายร้อยตัว
- โครงสร้างคอมพิวเตอร์มีการออกแบบที่ซับซ้อนขึ้น
- ภาษาที่ใช้ได้แก่ ภาษาโคบอล (COBOL) และภาษาพีแอลวัน (PL/1)
2.4 คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ (ค.ศ. 1972-1980)
- เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก (Very Large Scale Integration : VLSI)
- ขนาดของเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงหรือไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นแบบตั้งโต๊ะ หรือพกพาได้
- ทำงานเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ใช้สื่อข้อมูลพวกเทปแม่เหล็ก หรือ จานแม่เหล็ก
ภาษาที่ใช้เป็นภาษาใหม่ ๆ เช่น ภาษาเบสิก (BASIC) ภาษาปาสคาล (PASCAL) และภาษาซี (C) ซอฟต์แวร์มีการพัฒนามาก มีโปรแกรมสำเร็จใหเลือกใช้กันมากขึ้น
2.5 คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า (ค.ศ. 1980-ปัจจุบัน) คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ใช้เพื่อช่วยในการจัดการ การตัดสินใจ และแก้ปัญหา โดยจะมีการจัดเก็บข้อมูลไว้ เมื่อต้องการใช้งานก็สามารถเรียกข้อมูลที่เก็บไว้มาใช้ในการทำงานได้
- คอมพิวเตอร์ในยุคนี้เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI)
- มีการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานด้านกราฟิกอย่างแพร่หลายมากขึ้น
- ขนาดเครื่องมีแนวโน้มเล็กลงและมีความเร็วสูง เช่น โน้ตบุ้ค (Notebook)
- การปฏิบัติงานต่าง ๆ มีการใช้คอมพิวเตอร์แทนแรงงานมนุษย์
- ซอฟต์แวร์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วขึ้นมาก รวมทั้งการประดิษฐ์คิดค้นหุ่นยนต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น